วันศุกร์ที่ 24 พฤษภาคม พ.ศ. 2556

คลิปเทศน์หลวงตาวันวิสาขบูชา วันที่ ๑๒ พ.ค.๒๕๔๙



"เรามีโอกาสวันนี้ งานการใดๆ ที่เคยหมุนตัวเป็นเกลียวมาตลอด วันนี้เป็นวันว่างสำหรับหัวใจเราที่จะน้อมนึกถึงพระพุทธเจ้า พระธรรม พระสงฆ์ ทั้งวันประสูติ วันตรัสรู้ วันปรินิพพานในวันเดียวกัน"

คลิปเทศน์หลวงตาเนื่องในวันวิสาขบูชา 
ณ ศาลาใหญ่วัดป่าบ้านตาด
เมื่อวันที่ ๑๒ พฤษภาคม พุทธศักราช ๒๕๔๙
เรื่อง ความทุกข์ปัดออก ความดีงามสร้างเข้า

"วันนี้พี่น้องชาวพุทธเรากรุณาทราบทั่วถึงกัน เป็นวันถึงใจของชาวพุทธเรานะ วันประสูติ คือพระพุทธเจ้าท่านผู้วิเศษเลิศเลอโลกได้ประสูติในวันนี้ จากนั้นก็เป็นวันตรัสรู้ก็คือวันนี้เอง ตรัสรู้ธรรมกระจายทั่วแดนโลกธาตุ คือวันวิสาขบูชานี้ละ จากนั้นก็เป็นวันปรินิพพาน คือพระพุทธเจ้าจะปรินิพพานในวันนี้ ตรงกับวันวิสาขะวันเดียวกันนี้ เรามีโอกาสวันนี้ งานการใดๆ ที่เคยหมุนตัวเป็นเกลียวมาตลอด วันนี้เป็นวันว่างสำหรับหัวใจเราที่จะน้อมนึกถึงพระพุทธเจ้า พระธรรม พระสงฆ์ ทั้งวันประสูติ วันตรัสรู้ วันปรินิพพานในวันเดียวกัน เป็นโอกาสอันดีงามที่พวกเราทั้งหลาย จะได้นึกน้อมถึงท่านที่วิเศษเลิศเลอ ในสามแดนโลกธาตุนี้คือศาสดาองค์เอกเป็นผู้เลิศเลอครอบโลกธาตุทั้งหมด ประสูติวันเช่นนี้ ตรัสรู้วันเช่นนี้ ปรินิพพานวันเช่นนี้ จึงเป็นที่กราบไหว้บูชาระลึกถึงคุณของท่านมาเป็นวันวิสาขบูชาวันนี้

เราทั้งหลายได้ละโอกาสทุกอย่าง โอกาสก็ไม่ใช่โอกาสอะไรแหละ โอกาสเรื่องยุ่งเหยิงวุ่นวาย กิเลสตัณหามันฉุดมันลากไปทุกแห่งทุกหนไม่มีสถานีที่จอดแวะ ไปที่ไหนมันลากมันเข็นไป โลกนี้เป็นโลกที่รุ่มร้อนมากที่สุด ก็คือโลกกิเลสตัณหา โลกวุ่นวายนี้เอง วันนี้ทำจิตใจให้ว่าง ว่างการว่างงาน เสียสละทำบุญให้ทาน ฟังอรรถฟังธรรมนึกน้อมเข้าสู่ใจ ให้ใจได้รับความสงบร่มเย็นจากอรรถจากธรรม อันเรื่องจากกิเลสมันไม่มีทางที่จะทำโลกให้สงบร่มเย็นเพราะกิเลสไม่มี ไม่ว่าโลกไหนๆ เป็นโลกที่รุ่มร้อนเพราะกิเลสทั้งนั้น ถ้าธรรมไม่ได้เข้าแทรกตรงไหน โลกนั้นหาความหมายไม่ได้เลย

เมืองไทยเรานี้เป็นเมืองพุทธศาสนา ควรจะเป็นเมืองที่มีความสงบร่มเย็นเป็นบางกาลบางเวลา เช่นวันเช่นนี้เป็นวันวิสาขบูชา ให้พากันระลึกถึงพระพุทธเจ้า พระธรรม พระสงฆ์ ได้ทั้งวันยิ่งดีวันนี้นะ เราระลึกถึงอย่างอื่นมาตั้งแต่วันเกิดจนกระทั่งป่านนี้ ไม่มีเวล่ำเวลาที่จะมาระลึกถึงพระพุทธเจ้า พระธรรม พระสงฆ์ พอเป็นชิ้นเป็นอันบ้างเลย แต่วันนี้เราได้มาระลึกถึงคุณพระพุทธเจ้า พระธรรม พระสงฆ์ ด้วยจิตใจ พร้อมกับการทำบุญให้ทานของเราเพื่อบูชาคุณท่าน ฟังธรรมแล้วก็ให้น้อมนึกเข้าไปสู่จิตใจ นำธรรมนี้ไปเป็นคติเครื่องเตือนใจของเรา

ให้มีวรรคมีตอนมีขอบมีเขตมีฝั่งมีฝานะมนุษย์เรา ถ้าเป็นชาวพุทธควรจะมีขื่อมีแปมีขอบมีเขต อย่าเตลิดเปิดเปิงจนตายไม่มีป่าช้า อย่างนั้นเป็นเรื่องสัตว์ไม่มีความหมายตายกัน มนุษย์เราเป็นลูกชาวพุทธเป็นผู้มีความหมาย ตายมีป่าช้า ก่อนจะตายให้ได้สร้างคุณงามความดีไว้เต็มเนื้อเต็มตัวเต็มหัวใจเรา ตายที่ไหนเวลาใดก็ตามเป็นความสงบร่มเย็นทั้งนั้นถ้าบุญเข้าสู่ใจ แต่ถ้าบาปเข้าสู่ใจ ตายเวลาไหนจะไร้ค่าตลอดเวลา แม้มีชีวิตอยู่ก็มีแต่ลมหายใจ คนหมดคุณค่าโดยประการทั้งปวงแล้ว

ผู้มีคุณธรรมภายในใจอยู่ก็มีคุณค่า ตายก็มีคุณค่า สถานที่อยู่ของคนบุญเป็นสถานที่ดีงาม เช่นอย่างสวรรค์ พรหมโลก นิพพาน นี่เป็นสถานที่อยู่ของคนมีคุณงามความดี ตามอำนาจแห่งบุญแห่งกรรมของตนที่สร้างไว้มากน้อย ไปเกิดตามสถานที่นั้นๆ ตามอำนาจแห่งบุญกรรมของตน ผู้ที่มีบุญวาสนามาก สร้างโพธิสมภารเต็มหัวใจแล้วก็เข้าสู่นิพพาน สถานที่ร่มเย็นเป็นสุข สำหรับผู้สร้างบุญสร้างกุศลจะไปสถานที่เหล่านี้แล แต่สำหรับผู้สร้างบาปสร้างกรรมทางต่ำ จะลงตั้งแต่สัตว์เดรัจฉาน พวกเปรตพวกผี ลงไปนรกอเวจี นี่เป็นสถานที่ไป ที่อยู่และที่เสวยของสัตว์ผู้ทำบาปหาบกรรม ผู้ไม่เชื่อคำสอนของพระพุทธเจ้าซึ่งเป็นคำสอนที่ถูกต้องแม่นยำ ไม่มีใครเสมอคำสอนของพระพุทธเจ้าที่ท่านเรียกว่าสวากขาตธรรม ตรัสไว้ชอบแล้ว คือชอบทุกแง่ทุกมุม ว่าบาปมีมีจริงๆ ใครจะค้านก็ค้านไปสักเท่าไรไม่มีความหมาย บุญมีจริงๆ นรกสวรรค์มีจริงๆ นี่เป็นคำสอนของพระพุทธเจ้าทุกๆ พระองค์ด้วย ไม่ใช่เพียงพระองค์เดียวของเรานี้เท่านั้น

พระพุทธเจ้าพระองค์ใดมาตรัสรู้ก็คือรู้สิ่งที่มีอยู่ดั้งเดิม เช่น บาป บุญ มีอยู่ดั้งเดิม นรก สวรรค์ มีอยู่ดั้งเดิม จนกระทั่งนิพพาน มีอยู่ดั้งเดิม ทั้งฝ่ายดีฝ่ายชั่วมีมาดั้งเดิม เป็นแต่เพียงว่าสัตว์ทั้งหลายไม่รู้ แล้วก็ทำตามความอยากความทะเยอทะยานของตน ส่วนมากมักจะลงทางต่ำเสมอ แล้วไปเจอเอาสิ่งที่ไม่พึงหวังๆ เสียในภพนั้นๆ อย่างนี้เรียกว่าผู้ผิดหวัง ส่วนผู้มีหวังก็คือผู้สร้างคุณงามความดี อยู่ที่ไหนความหวังเต็มหัวใจ แล้วก็สมหวังๆ เรื่อยไป นี่คือผู้สร้างคุณงามความดีขอให้ท่านทั้งหลายระลึกแล้วนำเข้ามาสู่ใจตนเอง ปฏิบัติจิตใจให้มีศีลมีธรรมอย่าให้มีแต่ความเดือดร้อนวุ่นวายด้วยอำนาจของกิเลสตัณหาเผาตลอดเวลาไม่เป็นของดีเลย ให้มีอรรถมีธรรมเข้าสู่จิตใจ ใจจะมีความสงบร่มเย็นทั่วหน้ากัน

นี่ละท่านว่าบุญว่าบาปมีมาดั้งเดิม อย่าพากันชินชาต่อบุญต่อบาป ทำบาปไม่มีกระดากอาย บุญไม่สนใจจะทำ นี่เรียกว่าความชินชาหน้าด้าน ไม่สามารถที่จะทำความดีเข้าสู่ตนได้ มีแต่ความล่มจมสร้างไว้ทุกวันๆ ตายแล้วจมไปเลยๆ เพียงเราเห็นนักโทษในเรือนจำน่าดูไหมพิจารณาซิ ในเมืองมนุษย์เรานี้ละนักโทษในเรือนจำน่าดูไหม แล้วน่าอยู่ไหมสถานที่นักโทษอยู่นั้นเราต้องการไหม ไม่มีใครต้องการ นั่นละความชั่วของแดนมนุษย์เห็นประจักษ์อยู่อย่างนี้

ความชั่วในแดนแห่งเมืองผีก็หนักเข้าไปๆ ความดีในแดนสวรรค์ พรหมโลก นิพพานยิ่งเยี่ยมขึ้นไปๆ ให้คัดเลือกเสียตั้งแต่บัดนี้ที่มีคำสอนของพระพุทธเจ้าชี้แจงแสดงบอกแนวทางที่ถูกที่ผิดอย่างสมบูรณ์พูนผลอยู่แล้ว ให้ยึดธรรมที่ท่านสอนไว้ให้ดี ปฏิบัติตนให้เป็นคนดี ธรรมพระพุทธเจ้าไม่เคยโกหกโลก ที่โกหกโลกยอดที่สุดก็คือกิเลส อยู่ในหัวใจใดโกหกเจ้าของตลอดเวลา จากนั้นกระจายไปไหนมีแต่จอมโกหกจากหัวใจ หลอกลวงกันด้วยเจตนาไม่เจตนา กิเลสมันพาให้หลอกลวงไปเองโดยเจ้าของไม่รู้ว่าต้มตัวเองต้มคนอื่น เอาฟืนเอาไฟเผาตัวเองและเผาคนอื่นด้วยอำนาจของกิเลส พากันจำเอา"

วันพุธที่ 15 พฤษภาคม พ.ศ. 2556

The Incredible Power Of Concentration - Miyoko Shida

สรรพสิ่งเกี่ยวเนื่องสัมพันธ์กันอยู่ ด้วย ...สมดุลธรรมชาติ

วันศุกร์ที่ 10 พฤษภาคม พ.ศ. 2556

The Go-Giver (ยิ่งให้ยิ่งได้)


ความเชื่อที่ถูกปลูกฝังมาตั้งแต่เด็กๆ การให้ที่ไม่หวังผลตอบแทน เป็นการกระทำที่โง่เขลา หนังสือเล่มนี้เปลี่ยนแนวคิดของผมโดยสิ้นเชิง เพื่อนๆ คงจะเคยได้ยิน ประโยคนี้ใช่ไหมครับ “เรามักจะไม่ได้ในสิ่งที่เราต้องการ” แต่แท้จริงแล้ว… “เราจะได้รับในสิ่งที่เราคาดหวังว่าจะได้”
เหตุการณ์แบบนี้น่าจะเคยเกิดกับทุกคน ยิ่งเราไม่ชอบ หรือไม่อยากทำสิ่งใด เป็นต้องได้เจอ หรือได้รับมอบหมายให้ทำสิ่งนั้น ซึ่งล้วนเกิดจากพลังของแรงดึงดูดทางความคิดทั้งสิ้น เพราะฉะนั้นอำนาจและพลังความสำเร็จ ทุกคนมีเท่าเทียมกันหมด ขึ้นอยู่ว่าใครรู้จักใช้มัน
ยิ่งให้ ยิ่งได้
โดย: บ๊อบ เบิร์ก และจอห์น เดวิด, สำนักพิมพ์อมรินทร์
หนังสือเล่มนี้นำผมไปรู้จักกับ “โจ” คนหนุ่มที่มีความทะเยอทะยาน เค้าทำงานหนัก ทำงานเร็ว และมีเป้าหมายที่จะไปให้ถึงจุดสูงสุด เค้าพยายามอย่างมากที่จะได้ข้อตกลงใหญ่กับลูกค้ารายหนึ่ง เพื่อทำยอดในไตรมาสที่ 3 ให้ได้ หลังจากที่ผิดหวังมา 2 ครั้งติดกัน เหลือเพียงแค่ 1 สัปดาห์เท่านั้น ก่อนจะปิดไตรมาส
เมื่อเค้าคุยกับคาร์ล เคลเลอร์แมน (นายหน้าจัดหาบริษัทที่เหมาะสมกับงาน) โจไม่ได้งานชิ้นนั้น เพราะไม่คิดว่าบริษัทของโจมี “อำนาจต่อรองและอิทธิพล” นี่คือจุดเปลี่ยนของเรื่องราวทั้งหมด การได้มาซึ่ง “อำนาจต่อรองและอิทธิพล”
ทำให้โจได้รู้จักกับ “พินดาร์” ท่านประธานคนนี้ประสบความสำเร็จอย่างยิ่ง ในการลงทุนทำธุรกิจด้านต่างๆ หลากหลาย (ตอนนี้วางมือแล้ว) เป็นที่ปรึกษาให้กับเหล่าซีอีโอของบริษัทชั้นนำ 500 อันดับแรกโดยนิตยสารฟอร์จูน (Fortune 500) และเป็นวิทยากรสำคัญในงานสัมมนาทางธุรกิจระดับสุดยอด บทความชิ้นหนึ่งสมญานามว่า “ความลับที่เก็บรักษาไว้อย่างดีที่สุดในโลกธุรกิจ”
การพบครั้งนี้ ทำให้โจรู้ความลับทางการค้าของพินดาร์นั่นคือ “การให้” ประกอบไปด้วย 5 ข้อ โจต้องเจอพินดาร์ช่วงเวลาพักเที่ยง เป็นเวลา 1 อาทิตย์ หลังจากเรียนรู้กฎ 1 ข้อ จะต้องใช้งานทันทีในวันเดียวกัน
การเดินทางของโจ ในช่วงพักกลางวันของเค้า ทำให้ตัวผมเองได้เรียนรู้เรื่องราวจากบุคคลสำคัญๆ ที่มอบกฎแห่งความสำเร็จให้โจ เป็นหนังสือ How To ที่สนุกมาก ผมไม่สามารถวางมันไม่ลงได้ ต้องอ่านให้จบทันที อยากจะลงมือทำและได้รับพลังนั้นเช่นกันครับ
การให้ ให้ ให้ คือหัวใจสำคัญของความสำเร็จล้นฟ้า และนี่คือกฎทั้ง 5 ครับ
กฎห้าข้อแห่งความสำเร็จล้นฟ้า
  1. กฎแห่งคุณค่า: ค่าที่แท้จริงของตัวคุณวัดได้โดยการดูว่า มูลค่าของสิ่งที่คุณมอบให้ไปนั้นสูงกว่าเงินที่คุณได้รับมามากแค่ไหน
  2. กฎแห่งค่าตอบแทน: รายได้ของคุณตัดสินโดยดู คุณให้บริการผู้คนจำนวนมากแค่ไหน และคุณบริการพวกเขาได้ดีเพียงใด
  3. กฎแห่งอิทธิพล: คุณจะมีอิทธิพลมากเพียงไร ก็ขึ้นอยู่กับว่าคุณให้ความสำคัญแก่ผลประโยชน์ของผู้อื่นก่อนตัวเองมากแค่ไหน
  4. กฎแห่งความจริงใจ: สิ่งทรงคุณค่าที่สุด คุณจะต้องมอบให้คนอื่นๆ ก็คือตัวคุณเอง
  5. กฎแห่งการรับ: กุญแจสู่การให้อย่างมีประสิทธิภาพคือ การเปิดใจกว้างที่จะรับ
“หนังสือเล่มนี้” สร้างแรงบรรดาลใจให้กับผม และหวังว่าหนังสือ The Go-Giver จะเป็นแรงบรรดาลใจให้กับทุกคนครับ
จัดทำโดยทีมงาน คลีนโค้ด

วันจันทร์ที่ 6 พฤษภาคม พ.ศ. 2556

มัคคานุคาเบื้องต้น (เพลย์ลิสต์)

หลักสูตร "มัคคานุคาเบื้องต้น"

เหมาะสำหรับชาวพุทธและนักปฏิบัติทั้งผู้ใหม่และผู้เก่า
บรรยายธรรมที่ธรรมสถานว่องวานิช
วันที่ 31 ส.ค.- 2 ก.ย. 55 โดย อาจารย์ประเสริฐ อุทัยเฉลิม
ได้ดูเทปบันทึกก็เสมือนได้ปฏิบัติอยู่ในคอร์สด้วยตัวเอง